วันอาทิตย์ที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2553

10 วิธีง่ายๆ ในการเผาผลาญพลังงาน

การที่แต่ละวันคุณมีโอกาสได้ทำกิจกรรมต่างๆ บ้างเป็นหนทางหนึ่งที่ช่วยให้คุณได้ใช้พลังงานส่วนเกินที่สะสมจากอาหารที่กินเข้าไปได้ แม้คุณจะไม่ได้ออกกำลังกายหนักหน่วงจริงจังอย่างการเล่นกีฬาแต่อย่างน้อยก็ได้ออกแรง ขยับกล้ามเนื้อแขนขา ช่วยควบคุมน้ำหนัก แถมยังลดความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดหัวใจและกระดูกพรุนอีกต่างหาก

เราได้สรรหากิจกรรมง่ายๆ ที่บางทีคุณอาจมองข้ามไป มาแนะนำให้คุณลองมาดูกันว่ากิจกรรมใดใช้พลังงานสักเท่าใดกัน และแบบไหนที่คุณน่าจะทำได้บ้าง

ลุกขึ้นมาเดินคุยโทรศัพท์แทนที่จะนั่งเฉยๆ
สำหรับคนที่ทำงานนั่งโต๊ะ ระหว่างโทรศัพท์เป็นโอกาสดีที่คุณจะได้ลุกจากที่นั่งที่คุณจุมปุ๊กมาทั้งวัน แม้จะไม่ได้ใช้พลังงานมากนักแต่อย่างน้อยก็ทำให้คุณได้ขยับแข้งขา เพิ่มการไหลเวียนของเลือดทั่วร่างกาย การเลือกโทรศัพท์ประเภทไร้สายมาใช้จะช่วยได้มาก

เดินไปส่งเอกสารข้ามออฟฟิศด้วยตัวเอง
มีบางครั้งที่คุณต้องการจะยื่นเอกสารไปแผนกข้างๆ หรือต้องเดินข้ามชั้นหากที่ทำงานมีขนาดใหญ่ แทนที่จะใช้คนอื่นทำแทน คุณอาจลองหาช่วงเวลาเหมาะๆ แล้วลุกขึ้นเดินไปส่งเอกสารเหล่านั้นด้วยตัวเอง นอกจากจะได้ออกแรงเดิน หรือขึ้นลงบันไดแล้ว ยังได้ของแถมเป็นโอกาสเชื่อมสัมพันธไมตรีกับเพื่อนร่วมงานอีกต่างหาก

หาเวลาว่างไปเดินช้อปปิ้ง
การไปเดินตามห้างสรรพสินค้า หรือตลาดนัดเป็นทางออกของหลายๆ คนในการใช้เวลาว่างวันหยุด ไม่เพียงเพลินตาสบายใจเท่านั้น แต่เป็นโอกาสที่คุณจะได้ออกกำลังกายแบบไม่รู้ตัว ลองคิดดูว่าถ้าไปเดินห้างตลอดบ่ายวันเสาร์ นั้นเท่ากับคุณเดินไม่หยุดถึง 4-5 ชั่วโมงเลยทีเดียว จะให้ดีน่าจะสวมเสื้อผ้าที่สบายๆ ใส่ถุงเท้ารองเท้ากีฬาด้วยเสียเลย จะช่วยให้การเดินของคุณสนุกยิ่งขึ้น

ทาสีบ้าน
เชื่อไหมว่าการทาสีบ้านจะผลาญพลังงานคุณได้อย่างน้อยๆ ก็ประมาณ 300 แคลอรีต่อชั่วโมง แถมยังช่วยให้คุณได้ออกกำลังแขน และลำตัวได้อีกต่างหาก

ทำความสะอาดบ้านให้เอี่ยมอ่อง
วันหยุดสุดสัปดาห์ หากคุณได้ลงมือทำความสะอาดบ้านให้หมดจด ทั้งกวาด ทั้งถู ดูดฝุ่น เช็ดหน้าต่าง นอกจากจะทำให้บ้านสะอาดน่าอยู่แล้ว ยังได้ออกกำลังผลาญพลังงานถึง 420 แคลอรีต่อชั่วโมงโดยประมาณด้วย

ทำสวนตัดหญ้า
สำหรับคนที่บ้านมีบริเวณ การใช้เวลาขลุกอยู่ในสนามหญ้าหน้าบ้าน ทำสวน พรวนดิน ปลูกต้นไม้ จะได้ใช้พลังงานถึง 360 แคลอรีต่อชั่วโมง พอๆ กับการเล่นแบดมินตัน หากสนามกว้างหน่อยเดินไถรถตัดหญ้าบ้างก็ดี ก็จะช่วยผลาญพลังงานได้ถึง 420 แคลอรีต่อชั่วโมง หนักพอๆ กับเล่นเทนนิสเลยทีเดียว

เดินหาที่กินไกลๆ ออฟฟิศ
ใช้เวลาพักกลางวันให้เป็นประโยชน์กับสุขภาพและการออกกำลังกาย ด้วยการเดินไปหาของกินอร่อยๆ ไกลออฟฟิศขึ้นอีกนิด แทนที่จะพึ่งพาแต่โรงอาหารประจำอาคารเหมือนทุกวัน อย่างน้อยๆ ก็ช่วยให้คุณได้โอกาสเดินมากขึ้น ใช้พลังงานจากอาหารที่กินเข้าไป ลดการสะสมไขมันไม่มากก็น้อย

ถือตะกร้าจ่ายตลาดในซูเปอร์มาร์เก็ตแทนใช้รถเข็น
หากคุณต้องการซื้อสิ่งของเพียงไม่กี่ชิ้นที่คิดว่าพอถือไหว ก็ควรใช้ตะกร้าแทนรถเข็น เพื่อให้แขนได้ออกแรงยกของระหว่างเดิน อย่างน้อยๆ ก็ช่วยเผาผลาญพลังงานเสมือนกับการเล่นเวท และอย่าลืมสลับข้างเพื่อให้แขนและไหล่ทั้ง 2 ข้างได้ออกแรงเท่าเทียมกัน

เดินขึ้นบันไดแทนขึ้นลิฟท์
การขึ้นบันไดแต่ละครั้งคุณจะใช้พลังงานประมาณ 10 แคลอรีต่อชั้น เป็นโอกาสง่ายๆ ที่จะใช้เผาผลาญพลังงาน แล้วยังได้ออกกำลังขาอีกต่างหาก

โดยสารรถประจำทาง/รถไฟฟ้าแทนการขับรถ
เมื่อคุณต้องไปพบเพื่อน หรือลูกค้านอกออฟฟิศ หากเส้นทางที่จะไปอยู่ในเส้นทางเดินรถไฟฟ้า หรือมีรถประจำทางวิ่งผ่าน คุณลองจอดรถของคุณไว้แล้วใช้บริการขนส่งมวลชนดูบ้าง ไม่เพียงประหยัดค่าน้ำมัน ยังเป็นโอกาสที่จะได้เดินมากขึ้น ขึ้นลงบันได ใช้พลังงาน แถมยังได้สัมผัสชีวิตริมทางที่คุณไม่ค่อยได้เห็นได้อีกด้วย

10 วิธีที่กล่าวมานี้คงเป็นเพียงตัวอย่างกิจกรรมที่คุณเลือกทำได้ง่ายๆ นอกเหนือจากการออกกำลังกาย เพราะชีวิตประจำวันของคุณมีอะไรต้องทำมากมายไม่ซ้ำกัน ลองสรรหาสิ่งแปลกใหม่ให้ตัวเองทำ โดยตั้งใจจริงว่าจะต้องใช้พลังงานให้เป็นประโยชน์ แล้วคุณจะพบว่าตัวเองได้สุขภาพแข็งแรงเป็นผลตอบแทนกลับคืนมาที่คุ้มค่าจริงๆ

วันอังคารที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2553

เบาหวานกับสุขภาพในช่องปาก

ปัจจุบันนี้มีผู้ที่เป็นโรคเบาหวานสามารถดำรงชีวิตได้ตามปกติ หากดูแลรักษาสุขภาพและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดและสม่ำเสมอ คนที่เป็นเบาหวานนั้นจะต้องตระหนักว่าผลข้างเคียงอาจมีผลหรือสร้างปัญหาต่ออวัยวะส่วนอื่นๆ ที่สำคัญเบาหวานทำให้ร่างกายมีความสามารถในการป้องกันตัวเองจากการติดเชื้อน้อยลง คือ ติดเชื้อง่ายขึ้นและแผลหายช้า ดังนั้นผมจึงพบคำถามเกี่ยวกับช่องปากจากคนที่เป็นเบาหวานอยู่บ่อยๆ เช่น

• เป็นโรคเบาหวานถอนฟันได้หรือไม่?
• ทำไมคนเป็นเบาหวานเป็นโรคเลือดออกได้ง่าย?
• ทำไมเป็นเบาหวานแล้วเกิดแผลในช่องปากบ่อยๆ?

ดังนั้นเราควรมาเรียนรู้ถึงความสัมพันธ์ของโรคเบาหวานกับสุขภาพในช่องปาก เพื่อควบคุมปฏิบัติให้ถูกต้อง ก็จะช่วยให้มีความสุขในการใช้ฟันเคี้ยวอาหารและลดเรื่องยุ่งยากลงได้อย่างมากทีเดียวครับ

ปัญหาสุขภาพในช่องปากที่มักสัมพันธ์ไปกับโรคเบาหวานมีอะไรบ้าง

• ฟันผุ
• โรคเหงือกอักเสบ
• ปัญหาต่อมน้ำลายทำงานผิดปกติ
• การติดเชื้อราในช่องปาก
• การติดเชื้อและเป็นแผลแล้วหายช้า
• การรับรู้รสเสียไป

จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ควรได้รับการตรวจเช็คสุขภาพเป็นประจำ และควรมีข้อมูลเหล่านี้ให้ทันตแพทย์ทราบทุกครั้งที่ไปทำฟันเพื่อที่ทันตแพทย์จะได้เตรียมการรักษาให้เหมาะกับคุณ

• ถ้าคุณพบว่าเป็นเบาหวานอย่าปิดบังเพื่อจะได้ทำฟัน หลายท่านเข้าใจว่าถ้าบอกหมอว่าเป็นเบาหวานหมอจะไม่ทำฟันให้
• คุณได้รับการรักษาเบาหวานและอยู่ในความดูแลของแพทย์อยู่
• มียาอะไรบ้างที่ใช้อยู่

อาหารและฟันผุ

หากคนที่เป็นเบาหวานปล่อยปละละเลยไม่ควบคุมน้ำตาลให้ดี ปริมาณน้ำตาลที่สูงขึ้นในเลือด ในน้ำลาย ช่วยให้แบคทีเรียในช่องปากเจริญเติบโตได้เร็วขึ้นนั้น หมายถึงโอกาสที่เกิดโรคฟันผุและเหงือกอักเสบก็ง่ายขึ้นด้วย

คนที่เป็นเบาหวานจึงต้องหมั่นรักษาความสะอาดในช่องปากให้มากๆ นั้นคือ แปรงฟันหลังอาหารทุกมื้อ ทำความสะอาดตามซอกฟัน เพื่อลดคราบอาหารที่เป็นส่วนช่วยเสริมทำให้เกิดฟันผุและโรคเหงือกอักเสบ

คราบอาหารหรือขี้ฟัน ถ้าไม่ถูกขจัดออกปล่อยทิ้งสะสมไว้ มันจะรวมตัวกันเป็นหินปูน ซึ่งทำให้เกิดการอักเสบของเหงือกและติดเชื้อในช่องปากได้ง่ายขึ้น ก็เพราะว่า เบาหวานลดการป้องกันการติดเชื้อของร่างกายลง เหงือกและกระดูกรองรับรากฟันก็จะถูกกระทบเช่นกัน คนที่เป็นเบาหวานจึงเกิดโรคเหงือกอักเสบได้ง่ายและสูญเสียฟันไปอย่างรวดเร็ว ถ้าดูแลไม่ถูกต้อง

เราพบว่าคนเป็นเบาหวานที่ไม่สนใจควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดจะเกิดโรคเหงือกอักเสบได้ง่ายและรุนแรงถึงขนาดสูญเสียฟันไปได้ง่ายกว่าคนที่เป็นเบาหวานแต่ได้รับการควบคุมอย่างดี

ถ้าหากคุณพบว่ามีอาการเหล่านี้ต้องรีบไปพบทันตแพทย์ทันที

• เหงือกมีเลือดออกบ่อยๆ และง่าย
• เหงือกอักเสบแดง และเจ็บ
• มีหนองอยู่ตามซอกเหงือก
• มีกลิ่นปาก
• ฟันโยก
• ฟันปลอมที่ใส่อยู่หลวม

การติดเชื้อรา

ปกติแล้วในช่องปากก็มีแบคทีเรียและเชื้อราอยู่ แต่ร่างกายปกติสามารถป้องกันการติดเชื้อได้ แต่ในสภาพที่มีเบาหวานนั้นการเปลี่ยนแปลงและการป้องกันนี้ลดลง เชื้อราในช่องปากจึงมักปรากฎบ่อยๆ ในคนเป็นเบาหวาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่สูบบุหรี่ คนที่ใส่ฟันปลอมแบบถอดได้

เมื่อคุณเป็นเบาหวานมีรายละเอียดที่แตกต่างไปจากปกติที่ต้องให้ความสนใจ คือ การดูแลรักษาสุขภาพในช่องปากให้สะอาดอย่างจริงจัง เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดฟันผุและเหงือกอักเสบ นั่นคือ

• คุณเองต้องขยันแปรงฟัน ใช้ไหมขัดฟันหลังอาหารทุกมื้อ
• ใกล้ชิดหมอฟันมากหน่อย ตรวจฟันทุกๆ 3 เดือน ทำความสะอาดขูดหินปูนอย่าให้คราบหินปูนเกาะตามขอบเหงือกและฟัน
• ควบคุมอาหารหวานและแป้งที่ง่ายต่อการเกิดโรคเหงือกและฟันผุ
• หัดเป็นคนช่างสังเกตุว่ามีอะไรสิ่งผิดปกติในช่องปาก เลือดออกง่าย ฟันโยก เสียวฟัน ก็รีบพบทันตแพทย์ทันที

เมื่อจำเป็นต้องไปพบทันตแพทย์ เพื่อรักษาฟัน คุณควรควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดอย่าให้สูงมาก บางครั้งแพทย์ต้องให้ยาปฏิชีวนะก่อนทำทันตกรรมเพื่อลดการเสี่ยงการติดเชื้อ จะเห็นได้ว่าคนที่เป็นเบาหวานนั้น ถ้าหากเข้าใจลักษณะที่มากับโรคนี้และมีผลกระทบกับช่องปากอย่างไรแล้วสามารถควบคุมได้ ก็จะช่วยลดผลแทรกซ้อน และคุณก็จะมีสุขภาพในช่องปากที่ดีสามารถใช้ฟันบดเคี้ยวอาหารได้อย่างมีความสุขครับ