เติมพลังชีวิต สร้างความสมดุลให้ร่างกาย
ชายหนุ่มร่างเล็กที่หลายๆ คนรู้จักกันในฐานะนักร้องนำวงดนตรีแนวอัลเทอร์เนทีฟ ระดับแนวหน้าอย่าง “โมเดิร์นด็อก” ป๊อด – ธนชัย อุชชิน ที่เห็นกันอยู่หากเหยียบเวทีเมื่อไหร่จับไมค์เข้าแล้วล่ะก็ จำต้องสวมวิญญาณทั้งร้องเต็มเหนี่ยวเต้นเต็มแรง เรียกดีกรีความมันสุดเหวี่ยงจากคนดูได้ไม่น้อย แต่มีใครจะรู้บ้างไหมว่าเบื้องหลังชีวิตของนักร้องหนุ่มเลือดพุ่งแรงแต่กลับอ่อนโยนและหันมาดูแลใส่ใจสุขภาพด้วยการเล่นโยคะกับเขาด้วย
“สิ่งแรกที่ดลใจให้ผมฝึกโยคะนั้น เกิดจากนิสัยส่วนตัวซึ่งโดยปกติเป็นคนที่ชอบสนใจเรื่องจิตวิทยาและสนใจเรื่องจิตใจ ประกอบกับเป็นคนที่ชอบอ่านหนังสือ อย่างหนังสือธรรมะ หนังสือเกี่ยวกับโยคี-โยคะของคนอินเดียซึ่งเป็นสิ่งที่อยู่ในหัวสมองผมอยู่แล้ว”ป๊อดเล่า
ดังนั้น จึงสามารถกล่าวได้ว่า ร้านหนังสือคือแหล่งฟูมฟักแรงจูงใจของป๊อดเกี่ยวกับโยคะ
จากนั้น หนังสือเล่มเล็กๆ ก็ทำให้เขาขยายพรมแดนความคิดไปสู่การปฏิบัติจริง เพราะแม้จะรู้เรื่องโยคะผ่านตัวอักษร ผ่านรูป ผ่านท่าทางการดัดแต่ละประเภท และเข้าใจในทฤษฎีเป็นอย่างดี แต่ความจริงที่ป๊อดไม่สามารถปฏิเสธได้ก็คือ เขาไม่สามารถปฏิบัติได้เองจากข้อมูลที่มีอยู่ในหนังสือ ซึ่งในที่สุดในความคิดที่อยากมีครูสอน เพื่อฝึกปรือวิชาอย่างจริงจังจึงเริ่มขึ้น
“เพื่อนแนะนำให้ไปเรียนโยคะเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว เมื่อปี 1957 ซึ่งตอนนี้เรียนอยู่กับครูหนู หรือ ครูชมชื่น สิทธิเวช ผมเป็นคนมีวินัย ดีบ้างไม่ดีบ้างแต่เป็นคนที่ไม่เคยทิ้งการเรียน เพียงแต่ว่าจังหวะชีวิตบางช่วงหนักแน่นมาก จึงไม่ได้ไปเรียนอย่างต่อเนื่อง”
หนุ่มป๊อดยังบอกอีกว่า บางช่วงชีวิตนั้นตรงข้ามกับโยคะ จึงต้องใช้โยคะเข้ามาช่วยเพื่อให้ร่างกายเกิดความสมดุลเพราะเป็นคนที่ใช้อารมณ์มาก ความคิดว่องไว จึงต้องการพัก ท่าแรกจึงตกอยู่ที่ท่าสลบซึ่งเป็นท่าที่ทำให้รู้สึกว่าอยู่กับตัวเองมากที่สุด
“ถึงแม้จะมีสาวๆ ล้อมรอบ แต่ก็นิ่งนะ” ป๊อดเล่าแบบขำๆ พร้อมกับเสียงหัวเราะ
เริ่มเล่นช่วงแรกๆ นั้น ครูหนูสอนแบบค่อยเป็นค่อยไป ได้แค่ไหนแค่นั้นเหมือนกับการจับปูใส่กระด้ง แต่ครูหนูยังชมนักเรียนป๊อดว่าอยู่ในขั้นพิเศษหากเป็นเพราะมีพื้นฐานสติที่ดี ทั้งนี้ เนื่องจากบางคนเล่นโยคะแล้วคิดถึงเรื่องอื่น สติก็จะหลุดไปทันทีจึงต้องดึงกลับมา ทั้งนี้การเล่นโยคะยังเป็นการฝึกการควบคุมสติไปในตัวด้วย
หากถามถึงท่าที่ชอบมากเป็นพิเศษนั้น นักร้องหนุ่มก็บอกทันทีเลยว่าเป็นท่า “Headstand” (ยืนด้วยหัว) เพราะเป็นท่าที่ช่วยในเรื่องการไหลเวียนของโลหิตซึ่งทำหน้าที่หล่อเลี้ยงไปยังสมอง แต่ท่านี้เป็นท่าที่ต้องใช้พลังและพละกำลังภายในพอสมควร เนื่องจากจะต้องนิ่งจึงสามารถควบคุมร่างกายให้ยืนอยู่ได้
สำหรับประโยชน์ของการเล่นโยคะนั้น ป๊อดบอกว่าได้ทั้งด้านร่างกายและจิตใจ ได้ความนิ่ง ได้การผลัก ซึ่งไม่เหมือนกับการออกกำลังกายแต่เป็นการผลักย้อนหลัง โดยโยคะเป็นการดึงกลับเพราะทุกการเคลื่อนไหวนั้นจะต้องดูจังหวะให้สอดคล้องและสัมพันธ์กับลมหายใจเข้าออก
นอกจากนี้ โยคะยังทำให้ร่างกายได้ความสมดุลได้ทั้งความยืดหยุ่นและความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ ทำให้เกิดพลังเพราะแต่ละท่าจะมีการนวดอวัยวะภายในบางอย่าง ทั้งตับ ไต ไส้ พุงในท้องจึงได้ฝึกสติไปพร้อมกัน เมื่อเล่นเสร็จเหมือนได้เติมพลังให้กับชีวิตเพื่อนำไปใช้ต่อไป
ส่วนกรณีที่ในปัจจุบันกิจกรรมโยคะส่วนใหญ่ได้รับความนิยมจากผู้หญิงมากกว่าผู้ชายและเห็นกันน้อยมากที่ผู้ชายจะหันมาเล่นโยคะซึ่งส่วนใหญ่ผู้ชายจะหันไปเล่นกีฬาที่ต้องใช้พละกำลังออกแรงกันพอสมควร คนส่วนมากมักจะมองและจับย้ายตะกร้ามาเป็นผู้ชายที่ไม่แมนนั้น
ป๊อดให้ความเห็นว่า....
“จริงๆ แล้วไม่ใช่...โยคะดำริมาจากโยคีซึ่งเป็นผู้ชายที่นั่งสมาธินานๆ หลายชั่วโมงในแต่ละวันและได้คิดทำโยคะให้สอดคล้องโดยเลียนแบบท่าทางต่างๆ ทั้งท่างู ท่าปลา ท่าตั๊กแตน ซึ่งเป็นกิจกรรมไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายหรือวัยไหนก็สามารถเล่นได้ เพราะโยคะช่วยบำบัดร่างกาย สุขภาพ จิตใจของเรา นอกจากนี้ยังช่วยเรื่องงานเรื่องชีวิตทำให้ผมเข้าใจตัวเองและเห็นตัวเองมากยิ่งขึ้น”
“อย่างคลาสแรกเข้าไปเจอผู้ชายคนเดียว พี่บางคนเขาแอบมองผมเป็นตัวอย่างเวลาทำท่าเพราะเห็นผมมีความต่อเนื่องมีความมุ่งมั่น ซึ่งผมทำท่า “Headstand” (ยืนด้วยหัว) สิบสองนาที หลังๆ นี้ทำได้สิบสามนาทีแล้ว ผมเป็นพวกที่ขึ้นบันไดแล้วไม่ลงบันได แต่ไม่เคยทิ้งโยคะนะเพราะมีประโยชน์”
“ป๊อด โมเดิร์นด็อก” ยังแอบบอกมาด้วยว่าหลังจากที่เริ่มเล่นโยคะมาเป็นเวลาหกเดือนแรกทำให้รู้สึกอยากบวชขึ้นมาทันที เพราะว่าเล่นแล้วเข้าถึงจุดหนึ่งที่เบาลง จิตใจสงบ เนื่องจากชีวิตประจำวันในทุกวันนี้ต้องพบเจอคนมากมายสัมผัสได้อยู่ตลอดเวลาทั้งสื่อที่อยู่รอบด้าน สมองคิดอารมณ์เกิดเพิ่มมากขึ้น
สำหรับประโยชน์ในเรื่องของงานเพลง ป๊อดบอกว่าโยคะมีส่วนช่วยในการทำงาน อย่างอัลบั้มพิเศษที่ทำร่วมกับ “บอย โกสิยพงษ์” ชื่อ Project อัลบั้ม Bittersweet หวานขม ก็ได้ประโยชน์จากโยคะมาก
“ถึงแม้ว่าทำงานไปด้วยและเล่นโยคะไปด้วย ถ้าช่วงไหนที่ไม่ได้ไปร้องเพลง ผมยังแบ่งเวลาเพื่อที่จะปลีกตัวไปเล่นโยคะในช่วงเช้าถึงเที่ยง แต่ถ้าไม่มีงานที่จำเป็นครึ่งวันเช้าก็จะเก็บเวลาไว้ให้กับตัวเอง ปกติผมตื่นเช้าและชอบเขียนเพลงตอนตื่นนอนเพราะเป็นช่วงเวลาที่ไว้ทำอะไรให้กันตัวเองเช่นกัน ปกติจะไปเล่นโยคะที่บ้านครูหนู ถ้าผมไม่เอาตัวไปบ้านครูผมก็จะเล่นไม่ได้ อย่าเอาเป็นตัวอย่างนะ” เพราะถ้าผมเล่นที่บ้านสายตาก็จะเริ่มมองตู้เย็นตลอด ผมเลยไปบ้านครู”
“เวลาที่ผมอยู่กับครูหนู ครูคอยสอนเรื่องสุขภาพตลอด ทั้งเรื่องการกินซึ่งผมจะแย่มากครูจะคอยบอกให้ดื่มน้ำอุ่นๆ เยอะๆ ถ้าสิ่งไหนไม่ดีแกก็จะห้ามอย่าทำนะ โดยผมเองก็จะมีแนวทางชีวิตที่ว่า ทางซ้ายก็ผิด ทางขวาก็เบื่อไม่รู้จะไปทางไหนดี เหมือนกับไขมันเมื่อกินก็อิ่มแต่ถ้าไม่กินก็จะเบื่อไป”
ส่วนคนที่รักสุขภาพแต่ยังลังเลที่จะเล่นโยคะหรือไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นด้วยวิธีไหนดี “ป๊อด โมเดิร์นด็อก” ฝากคำแนะนำว่าควรเริ่มจากความสนใจว่าเราชอบอะไรก่อนไม่มีอะไรถูกอะไรผิด บางคนชอบแตะฟุตบอล ตีกอล์ฟ ว่ายน้ำ แต่ละอย่างมีประโยชน์ของตัวมันเองและเหมาะกับนิสัยของแต่ละคน ซึ่งโยคะก็สอดคล้องกับชีวิตประจำวันที่ต้องให้คิดเยอะ การหยุดพักและการสร้างลมหายใจจะสร้างความสมดุลให้กับตัวเอง ถ้าเราสนใจที่จะเล่นโยคะจริงๆ ก็ไม่ต้องลังเลอะไร บางคนกลัวร่างกายแข็งซึ่งถ้าเราไม่ลองก็ไม่รู้ ดังคำ “ถ้าเราไม่มีก้าวแรกจะมีก้าวต่อไปได้อย่างไร”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น