มะลิ ไม้ดอกที่ไม่ได้เป็นแค่ไม้ประดับ
พืชพรรณไม้ที่เป็นประโยชน์และมีคุณค่าในทางสมุนไพร ยังมีมากมายหลายชนิดที่มนุษย์เรากำลังศึกษาและวิจัย ซึ่งไม่ได้มีเพียงแค่พืชผักเท่านั้น ยังรวมไปถึงผลไม้ซึ่งบางชนิดให้คุณค่าทางสารอาหารสูงกว่าพืชผักที่เราทานอยู่ทุกวันนี้ นอกจากนี้ ยังมีไม้ดอกไม้ประดับอีกมากที่แฝงไว้ด้วยคุณประโยชน์ทางยา ในการช่วยบำบัดและรักษาอาการเจ็บป่วยได้อย่างดีเยี่ยมโดยที่เราคาดไม่ถึง
มะลิ ดอกไม้ไทยแท้ เป็นหนึ่งตัวอย่างง่ายๆ ของไม้ดอกไม้ประดับ ที่แทบทุกบ้านต้องปลูกไว้อย่างน้อย 1 ต้น คุณคงนึกไม่ถึงสินะว่า มะลินี้มีอะไรดีๆ มากกว่าที่เห็นๆ กัน อย่างนั้นก็ต้องแนะนำให้รู้จักกันหน่อยแล้ว
มะลิ เป็นไม้ดอก-ไม้ประดับที่มีกลิ่นหอมเย็นใจให้ความรู้สึกสุขสงบ มีชื่อเป็นภาษาอังกฤษว่า Jasmine ส่วนชื่อทางภาษานักพฤกษศาสตร์ที่ใช้เรียกขานกัน คือ Jasminum sambac (L.) Ait. เป็นพืชในวงศ์ Oleaceae ส่วนบ้านเราไม่ว่าจะเป็นภาคใด ที่ไหนก็เรียกว่า มะลิ
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
เป็นไม้พุ่มขนาดเล็กที่มีความสูงไม่มากนัก สูงอย่างเต็มที่ส่วนใหญ่ไม่เกิน 2 เมตร ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เธอได้รับความนิยมจากคนรักต้นไม้ให้เป็นตัวเลือกแรกที่จะปลูกไว้ในบ้าน มะลิเป็นไม้พุ่มที่แตกแขนงกิ่งก้านสาขาออกมามากมาย กิ่งอ่อนจะมีขนสั้นๆ นุ่มมือ ใบเป็นแบบใบเดี่ยวออกในลักษณะตรงข้ามกัน ใบค่อนข้างกลม ปลายใบมน สีเขียวเข้ม ดอกเป็นแบบดอกเดี่ยวหรือออกเป็นช่อก็ได้ โดยแต่ละช่อมี 2-3 ดอกกลีบเลี้ยงเป็นหลอดสีขาว กลีบดอกสีขาวนวลตา กลิ่นหอมอวล ไม่ฉุนจัดจนเกินไป เลี้ยงง่าย เติบโตไว ไม่ต้องการความเอาใจใส่ หรือต้องดูและอะไรเป็นพิเศษ
คุณค่าและคุณประโยชน์
คนสมัยก่อน นอกจากจะนิยมปลูกเอาไว้เป็นไม้ดอกไม้ประดับ เพื่อชื่นชมกับดอกสีขาวสวยนุ่มนวลชวนมองแล้ว เขายังเก็บดอกตูมมาใส่พานหรือถ้ามีเวลาว่างพอก็จะนำมาร้อยเป็นมาลัยกราบบูชาพระอีกด้วย กลิ่นหอมอ่อนๆ อบอวลอยู่ในห้องพระ ให้ความรู้สึกสงบใจอีกต่างหาก
นอกจากนี้ยังนำดอกมะลิมาลอยในน้ำดื่มเย็นๆ ให้แขกผู้มาเยือนได้ดื่มกันอย่างชื่นอกชื่นใจ หรือจะนำดอกมะลิไปลอยในน้ำเชื่อมกินกับขนมหวานไทย ก็ทำให้มีกลิ่นหอมชวนทาน แต่ทั้งนี้ต้องมั่นใจว่าดอกมะลิที่นำมาใช้ ไม่ได้ฉีดยาฆ่าแมลง
ส่วนประโยชน์ทางสมุนไพรของมะลิก็มีแทบทุกส่วนก็ว่าได้ ไล่กันไปตั้งแต่รากเรื่อยไปจนถึงดอกทีเดียว รากของมะลิแก้ได้สารพัดโรค ทั้งปวดเมื่อย เคล็ดขัดยอก เลือดออกตามไรฟัน รวมทั้งช่วยรักษาหลอดลมอักเสบได้ด้วย หากนำรากมาฝนกินกับน้ำ แก้ร้อนในได้ดี คนที่ป่วยเป็นโรคเกี่ยวกับทรวงอก ให้นำรากมาประมาณ 1-1.5 กรัม ต้มน้ำกินก็ช่วยได้
ส่วนใบใช้แก้ไข้ที่เกิดจากอาการเปลี่ยนแปลงได้ดี รวมทั้งรักษาอาการปวดท้อง แน่นท้อง ท้องเสีย หากนำใบมาตำแล้วละลายกับน้ำปูนใส แต้มแผลฟกช้ำ แผลเรื้อรัง โรคผิวหนังจะหายไวขึ้น ตลอดจนช่วยบำรุงสายตา และขับน้ำนมสตรีที่มีครรภ์ได้ด้วย
สุดท้ายคือส่วนของดอก ซึ่งนอกจากความสวยและความหอมแล้ว ยังแก้โรคบิด อาการปวดท้อง หากตำให้ละเอียดพอกที่ขมับ แก้อาการปวดหัวและปวดหูชั้นกลางได้ แถมยังช่วยรักษาแผลพุพอง แก้พิษแมลงสัตว์กัดต่อย รวมทั้งเป็นยาบำรุงหัวใจได้อย่างดีเยี่ยมอีกขนานหนึ่งด้วย
นี่แหละคุณค่าของดอกไม้ไทยที่หาได้ง่ายๆ ใกล้ๆ ตัว ใกล้ใจ และใกล้มือจริงๆ
ขอบคุณข้อมูลจาก Lisa
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น