วันอาทิตย์ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2552

อย่ามองข้าม “หน้าต่าง” ของหัวใจ

แนะเปลี่ยนพฤติกรรมไม่ดี กำจัด “ถุงใต้ตา”

ผิวหนังบริเวณใต้ตานั้นบอบบางและหลวมอยู่แล้ว เนื้อเยื่อและกล้ามเนื้อบริเวณใต้ตาจะเริ่มเสื่อมสลายเมื่ออายุมากขึ้น ทำให้เปลือกตาล่างมีรอยพับเกิดขึ้น ไขมันใต้ผิวหนังจะถูกดันออกมาเพราะกล้ามเนื้อไม่กระชับ ทำให้เห็นเป็นถุงใต้ตา นอกจากนั้นระบบการไหลเวียนของน้ำเหลืองที่ไม่ดี ก็จะทำให้น้ำมาคั่งบริเวณนี้ ทำให้ผิวรอบดวงตาบวม วันนี้มารู้จักสาเหตุและวิธีการแก้ไขปัญหาถุงใต้ตากันค่ะ

ถุงใต้ตา มี 2 ลักษณะ คือ ถุงใต้ตาแท้ และถุงใต้ตาเทียม

ถุงใต้ตาแท้

มีสาเหตุหลักมาจากกรรมพันธุ์ เกิดจากระบบต่อมไร้ท่อภายในร่างกายทำงานผิดปกติ ปกติแล้วคนเราจะมีก้อนไขมันสามก้อนอยู่ใต้ตา ก้อนไขมันเหล่านี้จะค่อยๆ ขยายใหญ่ขึ้นไปตามอายุ แต่สำหรับบางคนที่มีปัญหาถุงใต้ตาแท้ อาจจะสังเกตเห็นถุงใต้ตาได้ตั้งแต่อายุยี่สิบต้นๆ

วิธีการแก้ไข ทำได้โดยการใช้คลื่นวิทยุ หรือ Radio Frequency (RF) การผ่าตัด และการใช้ยาละลายไขมัน การใช้คลื่น RF จะช่วยยกกระชับผิวใต้ตา ทำให้ถุงใต้ตาดูเล็กลงเท่านั้น แต่ไม่สามารถทำให้ปัญหาถุงใต้ตาหายขาดไปได้

ส่วนการแก้ไขโดยการผ่าตัด โดยมากจะช่วยเรื่องถุงใต้ตาได้ดี แต่ช่วยเรื่องรอยคล้ำได้น้อย นอกจากจะตัดรอยดำออกไปด้วย การผ่าตัดอาจช่วยให้ผิวเรียบเนียนสดใส แต่ก็คงความงามอยู่ได้ไม่นาน หากขาดการดูแลที่ดี ถุงใต้ตาก็สามารถเกิดขึ้นใหม่ได้ เพราะการผ่าตัดคือการตัดเอาถุงไขมันใต้ตาทิ้งไป แต่ปัญหาการสะสมของน้ำและไขมันก็ยังเกิดขึ้นใหม่ได้ตลอดเวลา เมื่อสภาพผิวเริ่มอ่อนแอลงประกอบกับอายุที่มากขึ้น กระบวนการซ่อมแซมตัวเองของเซลล์ผิวก็เสื่อมประสิทธิภาพลง ทำให้การไหลเวียนขับถ่ายของเสียรอบดวงตาบกพร่อง ก่อให้เกิดการสะสมของถุงใต้ตาและริ้วรอยหมองคล้ำอยู่เรื่อยไป

ส่วนการใช้ยาละลายไขมันนั้นไม่ค่อยปลอดภัยนัก มีรายงานทางการแพทย์ด้วยว่า เคยมีผู้ใช้วิธีนี้จนกระทั่งตาบอด เนื่องจากเกิดการอักเสบของไขมันมากเกินไปจนส่งผลต่อดวงตา และอาจจะทำให้ตาบอดได้ในที่สุด

ถุงใต้ตาเทียม

มีสาเหตุมาจากระบบการไหลเวียนโลหิตและน้ำเหลืองในร่างกายไม่ดี ทำให้ของเหลวไปคั่งอยู่ที่ใต้ตา มักเกิดจากพฤติกรรมต่างๆ เช่น นอนดึก ชอบขยี้ตา ร้องไห้บ่อยๆ ใช้สายตามากเกินไป ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ แสงแดด ความเครียด การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ตลอดจนการแพ้สารต่างๆ เช่น มาสคารา

โดยเฉพาะผู้ที่นอนดึกหรืออดนอนเป็นประจำ จะทำให้การไหลเวียนโลหิตไม่ดี สารอาหารในเลือดลดลง เส้นเลือดตีบ รอยคล้ำชัดเจนขึ้น หากปล่อยทิ้งไว้นานๆ เส้นเลือดจะเปราะแตกง่าย เกิดสารตกค้างใต้ตา ทำให้ตาคล้ำได้

อย่างไรก็ตาม ถุงใต้ตาในลักษณะนี้แก้ไขได้ง่ายกว่า เพียงแค่เปลี่ยนพฤติกรรมที่ไม่ดีทั้งหลายดังที่กล่าวมา แล้วลองนวดที่ดวงตาเบาๆ หรือหมั่นประคบเย็นที่ดวงตาเป็นประจำ อาการดังกล่าวก็จะค่อยๆ ดีขึ้นได้

วิธีป้องกันการเกิดถุงใต้ตา

- อย่าให้กล้ามเนื้อตาล้าเกินไป เช่น หลีกเลี่ยงการนั่งหน้าจอคอมพิวเตอร์นานๆ ให้พักสายตาทุก 15 นาที ด้วยการมองออกไปไกลๆ จะช่วยให้ดวงตาไม่เกิดอาการล้า และปรับแสงหน้าจอคอมพิวเตอร์ให้พอเหมาะ

- หากรู้สึกอ่อนล้า ให้นวดเบาๆ และบริหารดวงตาเพื่อคลายความตึงเครียด ด้วยการกลอกตาไปรอบๆ เป็นวงกลม สัก 5 - 6 รอบ ใช้นิ้วนางทั้ง 2 นิ้วแตะที่หัวตาแต่ละข้าง คลึงเบาๆ แบบกดจุดนาน 1 - 2 วินาที

- หลีกเลี่ยงอาหารรสเค็มจัด เพราะจะยิ่งทำให้เกิดอาการบวมมากขึ้น

- หลีกเลี่ยงแสงแดดและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

- หนุนศีรษะให้สูงเวลานอน และพยายามนอนหงาย เพื่อให้ของเหลวกระจายได้ง่าย

- หลีกเลี่ยงการนอนดึกหรืออดนอน การคร่ำเคร่งอ่านหนังสือ และการร้องไห้

- อย่าขยี้ตา ถูหรือกดแรงๆ เพราะจะยิ่งทำให้ตาบวมมากขึ้น

- ลองใช้แตงกวาแช่เย็นฝานบางๆ หรือถุงชาแช่เย็นวางประคบ ประมาณ 10 นาที

- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เพื่อให้ระบบไหลเวียนโลหิตและน้ำเหลืองดีขึ้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น